วิธีสร้างรูปแบบและเลย์เอาต์ของกระเบื้องที่มีเอกลักษณ์และสะดุดตา

หากถามหาวิธีปูกระเบื้องจากช่างคงได้รับคำตอบว่าไม่อยากเจอปัญหากระเบื้องระเบิด กระเบื้องร้าว หรือปูไม่เรียบ ต้องเริ่มตั้งแต่การตรวจสอบความแข็งแรงของพื้นผิว ปรับสภาพพื้นผิว ทำความสะอาด ทากันซึม เลือกกาวซีเมนต์ให้ถูกประเภท แต่หากถามความต้องการในฐานะของเจ้าของบ้านต้องไม่ใช่แค่เทคนิค แต่เป็นอะไรที่เหนือกว่านั้น ต้องสร้างรูปแบบและเลย์เอาต์กระเบื้องที่มีเอกลักษณ์ เพิ่มเสน่ห์แบบเฉพาะตัวได้ด้วย แค่คิดน่ะง่ายแต่ลงมือทำจริง ๆ บอกเลยว่าแม้แต่ช่างก็ต้องกุมขมับ แต่จะทำยังไงได้เมื่อเราอยากได้ บ้านก็เป็นของเรา มีเงินมากพอที่จะจ่ายทำไมต้องทำอะไรแบบพื้น ๆ จริงไหม ดังนั้นหากสนใจอยากได้ดีไซน์กระเบื้องห้ามพลาด!

กระเบื้องที่มีเอกลักษณ์ทำให้เกิดขึ้นจริงได้มากแค่ไหน?

หากมองกระเบื้องเป็นเพียงแค่หนึ่งในองค์ประกอบของบ้าน แค่มองหากระเบื้องที่มีคุณสมบัติเรื่องความคงทน ติดตั้ง แค่นี้ก็เป็นอันจบ แต่หากมองกระเบื้องเป็นงานศิลปะ นั่นหมายความว่าจะไร้ขอบเขต ไม่ว่าคุณจะต้องการกระเบื้องที่มีเอกลักษณ์สะดุดตาแค่ไหน ก็สามารถทำให้เกิดขึ้นจริงได้ขอเพียงแค่มีจินตนาการเท่านั้น (อย่าให้ความคิดเห็นคนอื่นกวนใจ)

 

ดีไซน์กระเบื้องโดยใช้หลักการวางเลย์เอาต์ง่าย ๆ

อยากเพิ่มสีสันให้กับตัวบ้านด้วยดีไซน์กระเบื้องแปลกใหม่ ลองเปลี่ยนมาใช้หลักการวางเลย์เอาต์กันดูไหม? อยากได้แบบหรูหรา มีรสนิยม หรือเน้นธรรมชาติก็เลือกได้

 

1. กระเบื้องแต่งบ้านแบบมีรสนิยม ส่วนใหญ่จะเน้นใช้สีโทนดำสลับขาวและสีน้ำตาลเสริมให้บ้านดูกว้างขวาง มีให้เลือกเยอะ เช่น

• ดำล้อมขาว พื้นห้องครัวกระเบื้องสีขาวใช้สำหรับตั้งโต๊ะและเก้าอี้ ขณะที่กระเบื้องสีดำรอบนอก คือ พื้นที่อื่น ๆ ในครัว
• ปูกระเบื้องหกเหลี่ยมสีดำหรือโทนดำ ส่วนบริเวณอื่นของบ้านเลือกปูกระเบื้องแบบปกติ แต่เน้นโทนสีไปทางน้ำตาลอ่อน
• ปูด้วยกระเบื้องลายหินอ่อนขนาด 24 x 24 นิ้ว เปลี่ยนจากการปูให้ลายไปในทางเดียวกันมาเป็นสลับฝั่งแบบคาดเดาไม่ได้ เพิ่มกิมมิคให้กับพื้นบ้านได้เป็นอย่างดี แถมบ้านยังดูสวยและหรูหราขึ้นเป็นกอง

 

2. เน้นความเป็นธรรมชาติให้บรรยากาศอบอุ่น เช่น

• เลือกกระเบื้องปูพื้นบ้านโทนสีน้ำตาลเอิร์ธโทน จากนั้นไล่ระดับจากอ่อนไปเข้ม คือ ให้กระเบื้องปูพื้นเป็นสีโทนอ่อนและผนังเป็นสีโทนเข้มกว่าเล็กน้อย
• เลือกกระเบื้องสีน้ำตาลปานกลาง ทาผนังบ้านด้วยสีขาวและเน้นใช้สีน้ำตาลบริเวณขอบหรือโครงต่าง ๆ ของบ้าน เช่น ประตู หน้าต่าง บันได
• ขาวล้อมน้ำตาล เลือกทาสีบ้านเป็นโทนสีเทาหม่น ๆ ไปทางขาว และปูกระเบื้องสีน้ำตาลเอิร์ธโทนไว้กลางห้อง สำหรับห้องรับแขก

 

3. เลย์เอาต์กระเบื้องเน้นความเก๋ไก๋ไม่ซ้ำใคร ขึ้นอยู่กับจินตนาการและความชอบของแต่ละคน เช่น

• ปูพื้นบ้านเป็นกระดานหมากรุก
• เลียนแบบรังผึ้งจากธรรมชาติ จะใช้สีขาวกับน้ำตาล หรือดำกับน้ำตาลก็เข้ากันยังลงตัว

 

ข้อควรระวัง

แน่นอนว่าการเลือกเลย์เอาต์กระเบื้องมีจุดประสงค์เพื่อการสร้างสรรค์ลายหรือรูปแบบการปูกระเบื้องที่มีเอกลักษณ์และโดดเด่นสะดุดตา แต่ในขณะเดียวกันก็มีสิ่งที่ต้องพึงระวัง ดังนี้

 

1. เลือกวัสดุให้สอดคล้องกับการใช้งาน เช่น

• กระเบื้องผิวมันวาวเหมาะสำหรับห้องนั่งเล่นหรือห้องรับแขก เพราะง่ายต่อการทำความสะอาด
• กระเบื้องผิวหยาบ เหมาะสำหรับการปูพื้นนอกบ้าน หรือห้องน้ำ เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ เช่น ลื่นล้ม

 

2. ขนาดก็เป็นสิ่งจำเป็น

• กระเบื้องขนาดเล็กประมาณ 20 x 20 – 30 x 30 ซม. เหมาะสำหรับห้องน้ำหรือพื้นห้องนอน
• กระเบื้องที่มีขนาดมากกว่า 40 x 40 ซม. ขึ้นไป เหมาะสำหรับการปูห้องรับแขก ห้องนั่งเล่น

 

3. ดีไซน์กระเบื้องเด็ดแล้วสีต้องไม่ด้อยไปกว่า เช่น

• กระเบื้องสีอ่อน เหมาะสำหรับพื้นที่ขนาดเล็ก
• กระเบื้องสีปานกลางถึงเข้ม เหมาะสำหรับพื้นที่ขนาดใหญ่
• กระเบื้องสีเข้ม เหมาะกับบริเวณซักล้างหรือครัว เป็นต้น

 

4. สอบถามเรื่องราคาให้ละเอียด ค่าใช้จ่ายโดยรวมส่วนใหญ่ในการปูกระเบื้อง ประกอบไปด้วยค่ากระเบื้อง ค่าช่าง และค่าอุปกรณ์อื่น ๆ แต่หากเลือกวิธีการปูที่เฉพาะเจาะจงหรือต้องการกระเบื้องที่มีเอกลักษณ์ค่าใช้จ่ายอาจเพิ่มขึ้น ซึ่งรายละเอียดตรงนี้จำเป็นต้องคุยกับช่างอย่างละเอียด เวลาลงหน้างานจะได้ไม่มีปัญหา

 

5. จัดเลย์เอาต์กระเบื้องแบบไหนก็ต้องเผื่อเหลือเผื่อขาด คำนวณจำนวนกระเบื้องให้มากกว่าพื้นที่จริงประมาณ 2 – 5%

 

อย่างไรก็ตามการสร้างรูปแบบและเลย์เอาต์ของกระเบื้องที่มีเอกลักษณ์นั้นค่อนข้างซับซ้อน เพราะขึ้นอยู่กับความต้องการของเจ้าของบ้านเป็นหลัก ซึ่งแต่ละคนแตกต่างกันไป ดังนั้นหากสนใจอย่าลืมศึกษาข้อมูลให้ดีว่าจะเลือกเลย์เอาต์หรือดีไซน์กระเบื้องแบบไหน? จะได้ไม่ต้องมานั่งแก้แล้วแก้อีก